cr. The Will of Marco
ปกตอน ยามาโตะได้รับข้าวกล่องจากฮิโยริและโอโตโกะ
ตัดมาที่วาโนะคุนิ
โมโมะบอกว่าไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะได้รับข่าวสารจากโลกภายนอกด้วย
คินเอมอนบอกว่าสงสัยโอโรจิจะเอาแมลงโทรสารเก็บไว้ในปราสาท
โมโมะสงสัยว่าจอยบอยเป็นโจรสลัดรึ งั้นก็เหมือนลูฟี่เลยสิ
คินเอมอนได้ยินก็สงสัยว่าไปรู้จักจอยบอยมาจากไหน (น่าจะตอนที่โมโมะได้ยินเสียงสุนิชาพูดชื่อจอยบอย)
ที่ห้องขังฐานทัพเรือ G-4
คิลเลอร์ตัวปลอม(อดีตซันจิปลอม)สงสัยว่าจอยบอยรึ จะแข็งแกร่งกว่ากัปตันของพวกเรารึเปล่านะ กัปตันคิด
กัปตันคิดตัวปลอม(อดีตลูฟี่ตัวปลอม หรือดีมาโร แบล็ค)ก็ตอบว่าถามอะไรแบบนั้น ว่าแต่หมอนั่น(จอยบอย)ตายไปแล้วใช่มั้ย
ส่วนฮีทตัวปลอม(อดีตโซโลตัวปลอม) ก็พูดเสริมว่านี่แหละกัปตันคิดของพวกเรา
คิดตัวปลอมเลยตอบว่าจอย"บอล"... มันต้องอ่อนด๋อยกว่าเขาอยู่แล้ว
ลูกน้องเลยแก้ลูกพี่ว่า "บอย"ต่างหากครับ...
ตัดมาที่การถ่ายทอดสด เวก้าพังค์บอกว่าเขาได้อ่านโพเนกลีฟไปแค่ไม่กี่อัน
แต่ว่าสิ่งที่เขาได้รับรู้คือโพเนกลีฟเป็นรายงานสงครามอันยิ่งใหญ่
ศัตรูของจอยบอยคือรัฐบาลโลกในปัจจุบัน
พวกทหารเรือที่ได้ยินอย่างนั้นก็เลยอ๋อ บอกว่าก็แหงอยู่แล้วนี่ เพราะจอยบอยเป็นโจรสลัด
วอร์คิวรี่ที่ได้ยินอย่างงั้นก็โมโห สบถชื่อเวก้าพังค์ออกมา
เวก้าพังค์เล่าต่อว่า ถ้าจะให้พูดให้ถูก จริง ๆ
แล้วก็คือรูปแบบในอดีตก่อนที่รัฐบาลโลกจะก่อตั้งต่างหาก
มันคือความร่วมมือกันของยี่สิบกษัตริย์ที่ได้ก่อตั้ง"กองกำลังพันธมิตร"ขึ้นมา
พูดง่าย ๆ ก็คือจอยบอยแข็งแกร่งมากจนพวกนั้นต้องทำถึงขนาดนี้
แต่เนื่องจากเราไม่รู้ว่าอะไรคือ"สาเหตุ"ของสงครามนี้
เลยบอกไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก งั้นขอพูดง่าย ๆ ว่าเป็นการประทะกันของสองอุดมคติก็แล้วกัน
อย่างที่ได้บอกไป พวกเราก็ยังไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับอาณาจักรที่จอยบอยถือกำเนิดเมื่อ 900 ปีก่อน...
ตัดภาพมาที่โซ พวกแครอทฟังเวก้าพังค์พูด
เวก้าพังค์บอกว่ามีประเทศอันน่าทึ่งที่มาพร้อมกับประชาชนอันก้าวหน้า
"อาวุธ"ที่ปรากฎระหว่างสงครามในช่วงร้อยปีนั่น
คือผลิตผลที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
แครอทได้ยินอย่างงั้นก็บอกว่าเจ๋งไปเลย
ทางฟากฟ็อกซี่ที่นั่งเรือลำหนึ่งก็บอกว่าหมอนั่นพูดบ้าอะไรนั่น ไอ้ถั่วลิสง
ปอร์เช่บอกว่าหัวหน้าคะ ลืมเรื่องนั้นไปก่อนค่ะ พวกเราหิว
เวก้าพังค์บอกว่า แม้กระทั่งสมองอัจฉริยะของเขาก็สร้างอาวุธพวกนั้นไม่ได้
ฟ็อกซี่บ่นต่อว่านี่มันก็แค่ไอ้คนอวดดีเท่านั้น
แฮมเบิร์กหัวเราะชอบใจ
เวก้าพังค์เล่าต่อว่า ปัญหาในตอนนี้ก็คือ...
ตัดภาพมาที่ลาโบเฟส
เอดิสันติดต่อมายังสตุสซี่
เขาบอกว่าให้ปลดบาเรียและหลบหนีซะ
สตุสซี่ตกใจ บอกว่าไม่ได้หรอก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่กลุ่มหมวกฟางจะออกเรือล่ะก็...
เอดิสันตัดบท บอกว่าพูดตรง ๆ นะ บาเรียตอนนี้หมดประโยชน์ไปแล้ว
เพราะพวกห้าผู้เฒ่าผ่านเข้าไปได้ง่าย ๆ แล้ว
เขาใช้ทุกอย่างที่จะทำให้กลุ่มหมวกฟางหลบหนีได้
จากที่รู้จักกัน พวกนั้นต้องจัดการที่เหลือได้อย่างแน่นอน
ตัดมาทางฟากจินเบ นามิติดต่อจินเบ ถามว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน
จินเบขอโทษ บอกว่าพวกตนใกล้จะไปถึงที่นั่นแล้ว
โซโลบอกนามิว่าไม่เห็นมีเรื่องที่ต้องยกโทษให้จินเบเลย รวมถึงเขาด้วย
นามิได้ยินงั้นก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการนายตอนที่นายมาถึงที่นี่
นามิบอกว่าเร่งมือเข้า เรือศัตรูกำลังจะมารวมตัวกันที่ชายฝั่งตะวันออกแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะลงไปทะเลได้ แต่มันคงจะไม่ดีแน่ ถ้าพวกเธอตกเป็นเป้าหมายจากทั้งกองทัพ
สตุสซี่ที่ได้ยินอย่างงั้นก็ดีใจ บอกว่าถ้าเธอช่วยพวกเขาหนีไปไม่ได้ เวก้าพังค์ก็คงจะเกลียดเธอแน่
เอดิสันปลอบใจ บอกว่าไม่ใช่อย่างนั้นแม้แต่นิด เร่งมือเข้า แล้วรีบออกไปซะ
สตุสซี่ตอบว่าตอนนี้เธอตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว
เอดิสันตกใจ ถามว่าอะไรนะ
เธอเลยตอบไปว่าตอนนี้พอเวก้าพังค์จากไป เธอก็ไม่รู้แล้วว่าเธอจะอุทิศชีวิตนี้ไปเพื่อใคร...
ตัดมาทางกลุ่มบอนนี่ ต่อจากฉากที่เธอจะกลายร่างยักษ์จะเหยียบ V. นาสึจูโร่
บอนนี่บอกว่าอย่าให้หมอนี่ใช้ดาบได้ ตาแก่นี่สามารถฟันทุกอย่างขาดได้
V. นาสึจูโร่คิดในใจว่าเขาตรวจจับสัญญาณชีพได้
จากนั้นเขาพุ่งตัวออกมา และก็พูดว่า บอนนี่... และฟาดคลื่นดาบออกมา
แฟรงกี้เห็นท่าไม่ดี ตะโกนเรียกให้บอนนี่ระวัง พร้อมคว้าตัวบอนนี่ได้ทัน
บอนนี่คืนร่างเด็ก ส่วนคลื่นดาบฟันหัวเรือยักษ์ขาด
บอนนี่บอกว่าแฟรงกี้ว่าเธอไม่สามารถรักษารูปอนาคตไว้ได้ พร้อมถึงเหนื่อยหอบแฮก ๆ
เวก้าพังค์เล่าต่อว่า ร้อยปีแห่งความว่างเปล่า จบลงเมื่อจอยบอยพ่ายแพ้
V. นาสึจูโร่โมโห กระโดดพุ่งตัวไปด้านบน ด่าว่าแกคิดจะพูดไปอีกนานเท่าไหร่หา เวก้าพังค์!
ยักษ์โออิโมะถามว่าตาแก่ นายจะไปไหนกัน
V. นาสึจูโร่บอกว่าสัญญาณชีพพวกนี้ มันชักจะน่ารำคาญไปกันใหญ่แล้วนะ
จากนั้นเขาก็ฟาดวงดาบบนภาพหน้าคู่สุดเท่ ตัดเมฆลาโบเฟสขาดครึ่ง
เวก้าพังค์กล่าวต่อไปว่า
จากการตายของจอยบอย รอยแผลเป็นขนาดใหญ่จากสงครามได้ฝากร่องรอยเอาไว้
ส่วนพวก CP ทั้งหลายและเซราฟิม ร่วงหล่นลงมาจากเมฆ
(มีต่อ)